RSS

Boys Before Flowers



꽃보다 남자 Boys Before Flowers



ชื่อหนัง (เกาหลี/จีน/ญี่ปุ่น) : 꽃보다 남자 / Kgotboda Namja / Boys Before Flowers
ชื่อหนังอื่นๆ : Meteor Garden / Hana Yori Dango / Boys Over Flowers
นักแสดง : Koo Hye Sun, Lee Min Ho, Kim Hyun Joong, Kim Bum, Kim Joon
กำกับโดย : Jun Ki Sang
จำนวนตอน : 25
ประเภท : Romance, comedy
ผลิตโดย : Group Eight
Written By : Comic - Kamio Yoko, Yoon Ji Ryun
ปี : 2009
ออกอากาศ : 5 ม.ค. 2009 - 31 มี.ค. 2009
ออกอากาศช่อง KBS2 ทุกวันจันทร์และวันอังคาร เวลา 21:55 น.
ออกอากาศในไทย [1] : 4 ก.ค. 2009 ทุกวันเสาร์ และอาทิตย์ เวลา 9:15 - 11:00 ทางช่อง 7 - เริ่ม ก.ย. 2009
Official Website : Boys Before Flowers
Links : Gallery


เนื้อเรื่องย่อ (Synopsis) :
Boys over Flowers เป็นละครที่สร้างดัดแปลงมาจาก Hana Yori Dangoการ์ตูนยอดนิยมของประเทศญี่ปุ่น เรื่องราวของ กึม จันดี เด็กสาวธรรมดาซึ่งมีฐานะยากจนแต่เป็นคนที่ร่าเริงสดใส มีพ่อแม่ประกอบอาชีพซักแห้งเสื้อผ้า อยู่มาวันหนึ่งเธอได้ไปช่วยเหลือเด็กหนุ่มในโรงเรียนขินฮวาจนกกลายเป็นฮีโร่ และต่อมาเธอได้ร้บอุปการะจากคนนิรนามให้ย้ายไปเรียนที่โรงเรียนมัธยมชินฮวา โรงเรียนสำหรับลูกของคนรวยระดับประเทศเรียนกัน ถึงแม้เธอไม่อยากย้ายไปแต่พ่อแม่ของเธอปรารถนาอยากให้ กึมจันดี ได้พบแต่สิ่งดีๆ เธอจึงตัดสินใจไปเรียนที่โรงเรียนแห่งนั้นและเธอก็ชื่นชอบการว่ายน้ำจึงเป็น สิ่งเดียวที่เธอขอบมากที่สุดในโรงเรียนแห่งนี้เพราะเธอสามารถว่ายน้ำได้และ ใฝ่ฝันอยากเป็นนักว่ายน้ำในอนาคตในโรงเรียนชินฮวา แห่งนี้ มี 4 หนุ่ม F4 ที่นักเรียนทุกคนชื่นชอบและนับถือ โดยในกลุ่มนี้ประกอบไปด้วย กู จุนพโย หัวหน้ากลุ่มลูกชายเจ้าของธุรกิจบริษัทชินฮวาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเกาหลี ผู้มักจะให้ใบแดงกับนักเรยนในโรงเรียนที่เขาไม่ชอบปรือทำตัวไม่ถูกใจเขา สมาชิกคนที่สองคือ จีฮู หนุ่มเจ้าเสน่ห์อดดีตหลานชายประธานาธิบดีเกาหลี อีกหนุ่มหนึ่งใน F4 คือ โซจียอง หนุ่มนักศิลปะผู้มีชื่อเสียงทาด้านศิลปะเซรามิค และหนุ่มคนสุดท้ายคือ ซงอูบินกึมจันดี ไม่มีเพื่อนสนิทในโรงเรยนเลยเพราะโรงเรียนแห่งนี้มีแต่คนรวยๅ แต่เธอรู้สึกดีเมื่อได้มีโอกาสรู้จักกับ จีฮู F4 หนึ่งใน อย่างไรก็ตามอยู่มาวันหนึ่งเธอได้ช่วยเหลือเพื่อนนักเรียนหญิงห้องเดียวกัน ที่ทำไอศกรีมหกใส่ กูจุนพโย ในเวลาต่อมา กึมจันดี ได้รับใบแดงจากเขา เธอจึงถูกทุกคนในโรงเรียนกลั่นแกล้งตลอดเวลา แต่ก็ได้รับความช่วยเหลือจากจีฮู ทางด้าน กูจุนพโย ผู้ให้ใบแดงก็คิดว่า กึมจันดี คงจะทนไม่ไหวที่เธอถูกกลั่นแกล้งหลายครั้งหลายหน จนกระทั่ง กึมจันดี ทนไม่ได้และมาพบกับ กูจุนพโย ในที่สุด เธอสั่งสอนเขาด้วยท่าเตะไม้ตายเตะใส่หน้า กูจุนพโย จนล้มกลิ้ง พร้อมกับบอกว่าเธอไม่กลัวเขากึมจันดี รู้สึกมีใจให้กับ จีฮู ชายหนุ่มมาดขรึมที่ใจดี แต่ในทางเดียวกัน กูจุนพโย ก็เริ่มชอบเธอแบบปากไม่ตรงกับใจและพยายามปรับตัวเข้าหา กึมจันดี เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรโปรดติตามกันได้ในละครสุดฮอตฮิตอีกเรื่องหนึ่งใน เอเชีย กับละครเรื่องนี้ Boys over Flowers

ขอบคุณ : http://www.koreaseries.com/boysbeforeflower.html

What's Up Fox? - รักครั้งนี้ จักจี้หัวใจ

여우야 뭐하니 What's Up Fox? - รักครั้งนี้ จักจี้หัวใจ




ชื่อหนัง (เกาหลี/จีน/ญี่ปุ่น) : 여우야 뭐하니 / What's Up, Fox?
ชื่อหนังอื่นๆ : Hey Fox, What You Want To Do?
นักแสดง : Ko Hyun Jung, Chun Jung Myung, Kwon Hae Hyo, Choi Woo Ji
กำกับโดย : Kwon Seok Jang
จำนวนตอน : 16
ประเภท : Romance, Comedy
ผลิตโดย : Kwon Seok Jang
Written By : Kim Do Woo
ปี : 2006
ออกอากาศ : 20 ก.ย. 2006 - 9 พ.ย. 2006
ออกอากาศทางช่อง MBC วันพุธและวันพฤหัสบดี เวลา 21.55 น.
ออกอากาศในไทย [1] : 30 ก.ย. 2009 ทุกวันพุธ - ศุกร์ เวลา 8:30 - 10:15 น. ทางช่อง 7 - เริ่ม 30 ก.ย.นี้
Official Website : What's Up Fox?
Links : Gallery Wallpaper English Subtitle


เรื่องย่อ
ถ้าคุณติดใจผลงานเรื่อง ฉันนี่แหละ คิม ซัมซุน ละครเรื่องนี่ก็เป็นอีกเรื่องที่เป็นผลงานจากปลายปากกาของผู้เขียนคนเดียว กัน แต่ว่า มีหมายเหตุนิดหน่อย คือ ละครเรื่องนี่ไม่เหมาะกับเด็กอายุต่ำกว่า 17 ปี เพราะเนื้อหาของละครจะมีการสอดแทรกเรื่องราวของเพศเข้ามาบ้างเล็กน้อย เด็กๆ ไม่ควรดูคนเดียว ควรมีผู้ใหญ่ดูด้วย
ตัวฉันเองก็นั่งคิดอยู่นานว่าควรจะ เขียนเล่าเรื่องในแนวไหนที่จะไม่ทำให้ละครเรื่องนี่กลายเป็นละคร Rate R ไป แต่กล่าวโดยรวมแล้ว ละครเรื่องนี่เป็นละครที่ต้องการบอกเล่าเรื่องและความหมายของคำว่า รักแท้ ถึงแม้อายุจะต่างกันก็ไม่เป็นอุปสรรคกับความรักถ้าคนทั้งสองเข้าใจซึ่งกัน และกัน ร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน แบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน รักแท้ย่อมอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม เพียงแค่เราต้องค้นหาให้ได้เท่านั้นว่าใจของเราอยู่ที่ไหน
โก บยองฮี สาวโสดวัย 33 เฝ้ารอวันเป็นเจ้าสาวเหมือนกับหญิงสาวคนอื่นๆ อาชีพของเธอนั้นโดดเด่นไม่เหมือนใคร เธอเป็นนักเขียนให้กับนิตยสารสำหรับคุณผู้ชาย (เหมือน FHM บ้านเรา) บทความและนวนิยายที่เธอแต่งขึ้น เป็นที่ถูกใจของเหล่าหนุ่มๆ มาก แต่หนุ่มๆ เหล่านั้นกลับหารู้ไม่ว่า เธอไม่ตาสีตาสาอะไรเลย เรื่องทุกอย่างที่เธอเขียนเป็นเพียงเรื่องที่เธอจินตนาการขึ้นเท่านั้น วันทั้งวันเธอจะหัวปั่นกับภาระของที่บ้าน เป็นแม่บ้านเข้าครัว ซักผ้า ล้างจาน สารพัด ให้กับแม่ซึ่งไม่ยอมทำงานอะไรกับน้องสาวแสนสวยซึ่งมีอาชีพเป็น Super Model มาถึงบริษัท เจ้านายก็ยกภาระหน้าที่ทั้งหมดให้เธอ วันทั้งวัน เธอจึงไม่เคยมีเวลาดูแลตัวเอง ผมเผ้ารุงรัง หน้ามันเป็นกระทะทอดไข่ ภาระเท่านั้นยังไม่พอ ตั้งแต่วัยเด็กเธอต้องช่วยเพื่อนสนิทของเธอในการดูแลน้องชายวัยแบเบาะชื่อ ว่า ปาร์ค โชซู เรียกได้ว่า โชซู โตมากับ บยองฮี มากกว่าพี่สาวตัวเองเสียอีก และแล้วสวรรค์ก็เห็นในความดีของเธอ วันหนึ่งเจ้าชายรูปงาม ภูมิฐาน ทั้งฐานะและหน้าที่การงานของเขาก็ไม่เป็นรองใคร แบ เฮมยอง หมอเฉพาะทาง Urology อดีตเพลย์บอย อายุ 34 ปี รุ่นน้องของเจ้าของนิตยสารที่ บยองฮี ทำงานอยู่ ครั้งแรกที่ เฮมยอง พบกับ บยองฮี เขาก็ชอบเธอเข้าให้อย่างจัง ยิ่งไปพบเธอบ่อยเข้าก็ยิ่งทำให้เข้ามั่นใจว่าเธอคือคู่ชีวิตที่เขาตามหาอยู่
ปาร์ค โชซู เด็กหนุ่มจากโรงเรียนอาชีวะศึกษา เชียวชาญทางด้านรถยนต์เป็นอย่างมาก ถึงขนาดที่อู่ซ่อมรถต่างก็แย่งตัวกัน เขาเติบโตมากับพี่สาว แต่พี่สาวเขาก็มักไม่มีเวลาให้เขา เขาจึงอาศัยฝากท้องไว้กับบ้านของเพื่อนสนิทของพี่สาวเขา จากความสนิทชิดเชื้อของเขาและ บยองฮี เปลี่ยนแปลงกลายเป็นความรักของหนุ่มสาวไปตามกาลเวลา โชซู ก็รู้ว่าเป็นไปไม่ได้เพราะอายุของเขาทั้งสองห่างกันมากถึง 9 ปี และเขาเองก็เคารพ บยองฮี เหมือนพี่สาวของเขาคนหนึ่ง เขาจึงตัดสินใจ ออกเดินทางรอบโลก หายหน้าไปจาก บยองฮี ระยะหนึ่ง โดยหวังว่าระหว่างนั้น บยองฮีจะพบกับชายหนุ่มที่ดี และแต่งงานไปก่อนที่เขาจะกลับมา แต่จนแล้วจนรอด บยองฮี ก็ยังไม่ได้กลับแต่งงาน เขาเองก็พยายามที่จะหลบหน้า บยองฮี แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อ บยองฮี เมามายไม่ได้สติ เพราะเสียใจว่า ตนเองอาจต้องตัดมดลูกเพราะเนื้องอกในมดลูก เธอเสียใจว่าเธออาจจะไม่สามารถมีลูกได้ เธอจึงดื่ม โซจู เข้าไปหลายขวด ทำให้เมาไม่ได้สติ เดือดร้อนถึง โชซู ที่ต้องไปรับเธอกลับมา แต่แล้วทั้งสองคนก็ไปจบลงที่โรงแรมโดยไม่ได้ตั้งใจ โชซู เองก็ต้องการที่จะรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เพราะว่าเขาก็รัก บยองฮี อยู่แล้ว ถึงแม้บยองฮีจะไม่รู้ตัวก็ตามที แต่ บยองฮี กลับปฏิเสธเพราะว่า ความต่างของอายุ และ เธอไม่กล้าที่จะไปบอกใครว่าเธอมีสามีเป็นเด็ก แต่ โชซู ก็ตามตื้อเธอตลอดไม่ห่าง แล้ว บยองฮี ของเราจะค้นใจตัวเองเจอหรือไม่ว่า แท้ที่จริงแล้ว ในใจของเธอนั้นมีใคร ระหว่าง หมอหนุ่มสุด perfect แบ เฮมยอง กับเด็กหนุ่มผู้แสนจะจริงใจกับเธอ ปาร์ก โชซู
เรื่องนี้ไม่ได้ฉายความรักวุ่นๆ ของ บยองฮี เท่านั้น แต่ยังมีเรื่องวุ่นวายของน้องสาวเธอ Super Model สาวสวย โก จุนฮี อายุ 26 กับ เจ้าของห้องเสื้อ พ่อหม้ายมหาเศรษฐีอายุ 47 อีกคู่ ที่ต้องคอยตามลุ้น รักวุ่นๆ ของพวกเขาด้วยว่าจะลงเอยเช่นไร

ขอบคุณ : http://www.koreaseries.com/whatupfox.html

การเลือกซื้อโสม

โสม เกาหลีจะถูกเก็บเกี่ยวหลังจากการปลูกเป็นเวลา 4-6 ปี
รากโสมที่ขุดได้ใหม่สด จะเรียกว่า "ซูซัม" จะมีน้ำเป็นส่วนประกอบถึง 75% จึงมักจะเน่าเสียได้ง่าย ทำให้ยากในการเก็บรักษาโสมสดให้นานกว่า 1 สัปดาห์ จึงได้เกิดกรรมวิธีในการรักษารากโสมให้แห้งหรือที่เรียกว่า "โสมขาว" "โสมแดง" หรือ ราชาแห่งโสม ได้จากการนำรากโสมที่มีอายุ 6 ปีและต้องมีคุณภาพดี ที่ผ่านการเลือกสรรแล้ว มาผ่านขบวนการอบไอน้ำ และอบแห้งด้วยความพิถีพิถันทำให้ได้โสมที่ยังคงรูปร่างเดิม เพียงแต่สีเท่านั้นที่จะเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลแดง และยังสามารถเก็บได้นานกว่า เกรดของโสมมี 3 ชนิด คือ โสมสวรรค์ (Heaven) โสมโลก (Earth) โสมชั้นดี (Good) ขบวนการผลิตโสมแดงนี้ ทำให้เกิด สารจินซีโนซายด์ มากถึง 26 ชนิด ในขณะที่โสมชาวมี 23 ชนิด ที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ในขณะที่โสมที่มาจากแหล่งอื่นมีเพียง 8-15 ชนิดเท่านั้น โสมพืชสมุนไพร นี้มีคุณสมบัติพิเศษช่วยให้พลังงานและความมีชีวิตชีวา เหมาะสมสำหรับผู้ที่รู้สึกหมดกำลัง เหนื่อยล้า หรือไม่ตื่นตัว หอบหืด โรคกระเพราะ ความดัน เตรียมรับมือกับสถานะการณ์ที่ก่อให้เกิดความเครียดได้เพราะเป็นบ่อเกิดของ โรคหัวใย เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม โสมไม่ใช่เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่ให้ผลเฉพาะครั้งที่รับประทานซึ่งทำให้ เหนื่อยล้ามากว่าเดิม หลังจากหมดฤทธิ์ และยังทำให้อย่างรับประทานเครื่องดื่มบำรุงกำลังเพิ่มขึ้น ส่วนโสมแตกต่างออกไป โดยผู้ทานโสมจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงในทันทีทันใด แต่โสมจะค่อย ๆ เพิ่มประสิทธิภาพให้ผู้ทานอย่างช้า ๆ การบริโภคโสมอย่างสม่ำเสมอจะนำมาซี่งสุขภาพที่แข็งแรง มีพลังงานเพียงพออย่างต่อเนื่องและทำให้กระฉับกระเฉงกระปรี้กระเปร่ามีชีวิต ชีวาขึ้น รากของโสมที่นำมาผ่านขั้นตอนกรรมวิธีในการผลิตต่าง ๆ แล้ว จะมีหลายประเภท เช่น ประเภทรากโสม รากโสมผสมน้ำผึ้ง โสมเป็นไซรับ โสมเป็นผง หรือโสมที่บรรจุเป็นแคปซูล

1. รากโสม รากโสมจะเป็นราก ๆ ที่บรรจุใส่กล่องเหล็กมีประมาณ 15 ตัวขึ้นไป นิยมนำมาต้มโดยใส่ประมาณ 1-2 ราก ต่อน้ำ 3 แก้ว แล้วเคียวด้วยไฟอ่อน ประมาณ 2 ชั่วโมง (ไม่ควรต้มในหม้อเหล็ก) ระวังอย่าให้ตัวโสมไหม้ พอโสมอ่อนตัวลง ก็นำมาใช้ประกอบอาหารได้ตามอัธยาศัย

2. รากโสมผสมน้ำผึ้ง รกโสมผสมน้ำผึ้งนี้ จะบรรจุในพลาสติก แล้วนำใส่กล่องเหล็กอีกที วิธีใช้ คือ นำรากน้ำผึ้งมาหั่นบาง ๆ ประมาณ 2 มิลลิเมตร แล้วเคี้ยวทานได้เลย เคี้ยวได้หลายครั้งในแต่ละวัน พยายามเคี้ยวทานอย่างสม่ำเสมอ หรือ อาจจะเอาชิ้นที่หั่นบาง ๆ นั้นมาใส่ในเครื่องดื่มที่ท่านโปรดปรานก็ได้

3. โสมที่เป็นไซรับ หรือคล้ายน้ำผึ้ง อันนี้จะถูกบรรจุใส่ขวดแก้ว แล้วจะนำมาบรรจุใส่กล่องไม้อีกทีหนึ่ง ในหนึ่งกล่องจะประกอบด้วยจำนวน 6 ขวด วิธีใช้ ก็คือ ใช้ช้อนที่บรรจุด้านในตักโสมสกัดด้านในแค่ 1 ช้อน ใส่ลงในน้ำร้อน 1 ถ้วย ผสมน้ำผึ้งบริสุทธิ์ แล้วคนให้เข้ากัน แล้วดื่นทาน ดื่มวันละประมาณ 2-3 ครั้ง

4. โสมผง โสมผงจะมีลักษณะเป็นสีขาว ที่ถูกบรรจุในขวดพลาสติกทึบ แล้วใส่ในกล่องไม้อีกที ใน 1 กล่องจะมี 6 ขวด วิธีใช้ก็คือ ตักโสมผง 1 ช้อนลงในน้ำร้อนแล้วใส่น้ำตาล หรือน้ำผึ้งเพื่อปรับรสชาติให้น่าทาน หรือว่าจะตักโสมผง 1 ช้อนลงในเครื่องดื่มที่ท่านชอบก็ได้ รับประทานวันละ 2-3 ครั้ง สำหรับท่านสุภาพสตรี โสมผงยังสามารถใช้เป็นยาบำรุงผิวพรรณได้ด้วย คำ นำเอาส่วนไข่แดงของไข่ไก่ 1 ฟอง มาแล้วตักโสมผง1 ช้อน จากนั้นตีเข้าด้วยกัน หั่นแตงกวาออกเป็นชิ้นบาง ๆ นำมาชุบในส่วนผสมให้มาด ๆ แล้ว พอกไว้ที่หน้าประมาณ 15-20 นาที สัปดาห์ละ 1 ครั้ง จะทำให้ผิวพรรณดีขึ้น รักษาสิวฝ้า และโรคผิวหนังบริเวณใบหน้า

5. โสมเม็ด โสมเม็ดนี้จะถูกบรรจุลงในขวด แล้วบรรจุใส่ในกล่องกระดาษแข็งอีกครั้ง ใน 1 กล่อง จะบรรจุประมาณ 100-200 เม็ด โสมเม็ดนี้จะเหมาะสำหรับท่านที่ไม่ค่อยมีเวลามากนัก เพราะสามารถนำมาทานได้ทันที รับประทานครั้งละ 1-2 เม็ด วันละ 3 ครั้ง


ขอบคุณ : http://www.thaifly.com/TH/guide/korea.php#som

Hangeul (The Korean alphabet)


Hangeul (The Korean alphabet)



Hangeul was invented by King Sejong in 1446 with assistance from some scholars to give the people an alphabet that was easy to read and write. Throughout the world, there are some 3,000 spoken languages but roughly only 100 alphabets. Among these, only Hangeul was systematically invented without influence from any other language. There also haven't been any other books published by its creators to explain the scientific principles employed or the background to communicate information in the exact manner in which they had intended. For this reason alone, linguists from around the world hold Hangeul with very high regard. It also explains why UNESCO included Hangeul on its list of Memory of the World Heritage in October 1997.

The influence of the Korean Wave and the strength of the Korean economy have encouraged a growing number of people overseas to learn about Korean culture and study the Korean language. Many universities around the world have recently opened departments of Korean language. In accordance with such measures, the Korean government has been opening branches of Sejong Academy, a Korean language educational center, around the world, and continues to develop, translate, and distribute manuals on basic Hangeul in various languages designed specifically for local cultures.


As the number of people studying the Korean language continued to grow, it became necessary to introduce an official examination to test Korean language proficiency in order to keep up with rising demand. The Test of Proficiency in Korean (TOPIK) is administered by the Korean Institute of Curriculum and Evaluation. In 2005, the Employment Permit System-Korean Language Test targeted for foreign immigrant workers was introduced.

By : http://english.visitkorea.or.kr/enu/CU/CU_EN_8_1_1.jsp

Han Style

Han Style

In Asia, the 80's were a time for “ Hong Kong noir”, whereas the 90's were more an age of Japanese animation. As we continue into the 2000s, Korean music and dramas continue to hit all the right notes. Interest in Korea, triggered by the success of leading Korean dramas and popular music, has escalated to include a host of other aspects of Korean culture, such as hangeul (Korean alphabet), hansik (Korean food), hanbok (traditional Korean clothing), hanok (traditional Korean houses), hanji (traditional Korean paper), as well as Korean music. In Korea , the aforementioned six cultural symbols are collectively referred to as “Han Style”. Similar in nature to Japan , as represented by the kimono (traditional dress), sushi (rice rolls), and samurai (warriors in Japanese history), the image of Korea is based on its own unique traditions including hanbok, kimchi, hangeul, hanji, hanok, and Korean music.




The Korean Wave that swept its way through Asia with dramas and popular music is now achieving even far greater appeal in the international market. As it continues to evolve it enriches the image of Han Style, representing Korea in a positive light. Korean food has long been highly acclaimed for being extremely healthy. Korean food continues to gain popularity throughout the world for its incredible health benefits. Hanji is a traditional form of paper that can last for over one thousand years and is known for its outstanding quality and elegant designs. The paper is drawing attention not only for record-keeping purposes but also for interior decoration and for the purpose of paper wrapping. Hangeul is a very scientific alphabet and is designated by UNESCO as an important part of the Memory of the World Heritage. As a result of the Korean Wave and Korea 's economic prosperity, desire to learn hangeul and the Korean language is exploding.Hanbok became the focus of attention when Daejanggeum (Jewel in the Palace), a TV drama on royal court cuisine, became popular in Asia . Modifications of the exquisite colors and designs of hanbok are also used as motifs in all Korean-style designs. Many international tourists are showing interest in hanok as they want to experience ondol , the Korean floor heating system very effective in the cold winter. Ondol is an important aspect of Korea 's unique architectural style, and it brought floor heating into vogue globally. Traditional Korean music has many slow-rhythm, sentimental songs that epitomize the sad history of Korea . Such unique Korean sentiments had significant influence on Korean popular music and drama and are an important driver of the Korean Wave.

By: http://english.visitkorea.or.kr/enu/CU/CU_EN_8_1.jsp

Location



Location

The Korean Peninsula is located in North-East Asia. It is bordered by the Amnok River (Yalu River) to the northwest, separating Korea from China, and the Duman River (Tumen River) to the northeast which separates Korea from both China and Russia. The country itself is flanked by the Yellow Sea to its west and the East Sea to the east. There are several notable islands that surround the country including Jeju-do, Ulleung-do and Dok-do (Liancourt Rocks).
The Korean peninsula is roughly 1,030 km (612 miles) long and 175 km (105 miles) wide at its narrowest point. The land area is 99,200 sq km (38,301 square miles), and it has a population of 48.6 million people (2008).
Because of its unique geographical location, Korea is a very viable piece of land and an international hub of Asia.


Geographical Make-up

Mountains cover 70% of Korea's land mass, making it one of the most mountainous regions in the world. The lifting and folding of Korea’s granite and limestone base create a breathtaking landscape of scenic hills and valleys. The mountain range that stretches the length of the east coast falls steeply into the East Sea, while along the southern and western coasts, the mountains descend gradually to the coastal plains that produce the bulk of Korea’s agricultural crops, especially rice.

พูซาน



พูซาน

ข้อมูลทั่วไป
พูซานเป็นเมืองท่าที่สำคัญเมืองหนึ่งของเกาหลีใต้ เรียกได้ว่าเป็นเมืองที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่มากเป็นอันดับสองของประเทศเกาหลีเลยทีเดียว เมืองพูซานเป็นเมืองที่มีความเจริญไม่แพ้เมืองอื่นๆ ที่นี่เต็มไปด้วยโรงแรมระดับห้าดาวและร้านอาหารที่มีฝีมือในการทำอาหารชั้นยอด ถูกนำมารวบรวมอยู่ที่เมืองพูซาน เมืองพูซานเป็นเมืองที่ติดทะเล มีหาดทรายที่สวยงาม และอุดมสมบูรณืไปด้วยอาหารทะเลมากมาย ใจกลางเมือง พูซานมีอุทยานที่ชื่อว่า “ยงดูซาน” นอกจากนี้ก็ยังมีย่านที่ชื่อว่า “ควางบกดง” และ “นัมโพดง” ซึ่งทั้งสองที่นี้เป็นแหล่งรวมสินค้ามากมายและเป็นศูนย์รวมความบันเทิงของนักท่องเที่ยวที่ผ่านมาผ่านไปอีกด้วย ซึ่งถ้าใครอยากจะมาเดินหาซื้อของฝากก็สามารถมาเดินช๊อปปิ้งได้ที่นี่เช่นกัน



ที่ตั้ง

จากกรุงโซลถึงเมืองพูซาน หากโดยสารทางเครื่องบินจะใช้เวลาประมาณ 50 นาที หากนั่งรถไฟจะใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง 20 นาที และถ้านั่งรถบัสประจำทาง หรือรถทัวร์ ก็จะใช้เวลาประมาณ 5 ชั่วโมง 20 นาที


สถานที่ท่องเที่ยวในเมืองพูซาน

- หาดแอฮึนแด
- อุทยานแห่งชาติทะเลฮัลยอ
- อุทยานยงดูซาน
- พิพิทธภัณฑ์เมืองพูซาน
- สุสานทหารสหประชาชาติ
- อุทยานคึมกัง
- วัดทงโดซา
- วิหารชุงเรียลซา
- พิพิทธภัณฑ์ศิลปะเมืองพูซาน
- ตลาดปลา ชากัลชิ
- ตลาดกุกเจพูซาน
- ตลาดกวางบองโน


Copyright 2009 The Korea ... K o r e a n :)). All rights reserved.
Free WPThemes presented by Leather luggage, Las Vegas Travel coded by EZwpthemes.
Bloggerized by Miss Dothy